Thesis Proposal
ส่วนที่ 1 ความเป็นมาโครงการ
1.1 ชื่อโครงการ
ศูนย์บำบัดและรักษาโรคมะเร็ง บางพลี
1.1.1 คำจำกัดความ ความหมาย ของชื่อโครงการ
คือหน่วยงานที่เป็นศูนย์กลางในการวางแผนการบำบัดรักษาและให้คำปรึกษากับผู้ป่วย
และผู้ที่มีความเสี่ยงเฉพาะโรคมะเร็ง
1.1.2. กลุ่ม : โรงพยาบาล ประเภท : เฉพาะทางโรคมะเร็ง
เป็นโครงการ โรงพยาบาล 400 เตียงของโรงพยาบาลรามาธิบดี บางพลี กำลังพัฒนาให้อยู่ในระดับเอเชีย
1.1.3 โครงการใกล้เคียงเปรียบเทียบ (Case study)
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
เลขที่ 54 ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 โทร. 02-5766000
ประวัติความเป็นมา
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นหน่วยงานในสังกัดของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ก่อกำเนิด ขึ้นจากพระปณิธานแน่วแน่ใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ที่จะก่อตั้งศูนย์แห่งความเป็นเลิศทางวิชาการขึ้นเพื่อช่วยประเทศ ชาติพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล สามารถให้การบำบัดรักษาโรคมะเร็ง ได้ผลดีทัดเทียมกับประเทศพัฒนาแล้วที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ด้านนี้ นอกจากทรงสอนนักศึกษาแพทย์ และพยาบาลด้านความรู้พื้นฐานของการเกิดมะเร็งในฐานะศาสตราจารย์ประจำของคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาลแล้ว ยังได้ทรงวางรากฐานของการดำเนิน การวิจัยโรคมะเร็งมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยทรงรับเป็นหัวหน้าห้องปฏิบัติการเคมีผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และห้องปฏิบัติการสารเคมีก่อมะเร็ง ซึ่งดำเนินการวิจัยเพื่อค้นคว้าหาสารเคมีที่มีคุณสมบัติฆ่าเซลล์มะเร็งป้องกันการเกิดมะเร็ง และศึกษาการเปลี่ยนแปลงในระดับโมเลกุลของยีนส์ที่ทำให้เกิดมะเร็งหรือยีนส์ที่ระงับการเกิดมะเร็งในโรคมะเร็ง ซึ่งพบบ่อยในประชากรไทย นอกจากนี้ ยังทรงวางนโยบายให้มีการจัดโครงการศึกษาวิจัยโรคมะเร็งครบวงจร โดยทรงเริ่มจัดตั้ง “คลังชีววัตถุโรคมะเร็’ง” (Tumor Bank) |
สำหรับมะเร็งชนิดที่พบมากในประชากรไทย ด้วยพระวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลว่า ในอนาคตชิ้นเนื้อเหล่านี้ บางชนิดจะหาได้ยาก และการตัดชิ้นเนื้อมะเร็งซึ่งเป็นวิธีการรักษาด้านศัลยกรรม จะลดน้อยลง คลังชีววัตถุโรคมะเร็งนี้ ย่อมจะมีค่าต่อการศึกษาวิจัยในระดับโมเลกุล นำไปสู่วิธีการรักษาในแนวใหม่ ด้วยการสนับสนุนด้านงบประมาณจากรัฐบาล และความร่วมมือจากนักวิจัยจากบรรดาสถาบันต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศเป็นอย่างดี ทั้งยังมีการจัดกิจกรรมทางวิชาการต่างๆ ด้านโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์ฯ ได้เป็นอย่างดี ถึงขั้นสมควรพัฒนาไปยังระยะที่สอง คือ การจัดตั้งโรงพยาบาลเฉพาะทาง และดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งให้ได้มาตรฐานทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ให้เป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศ ซึ่งนำการวิจัยทางคลินิกมารองรับการตรวจวินิจฉัย การรักษา และบำบัดโรคมะเร็ง ร่วมกับฐานการวิจัยทางชีวการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพอย่างครบวงจร ให้ได้วิธีการรักษาที่ได้ผลมากขึ้น จัดการฝึกอบรม ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์แก่แพทย์ทั่วประเทศ เป็นการยกระดับมาตรฐานการรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น เป้าหมายของศูนย์ฯ ยังสอดคล้องกับแผน พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 9 โดยจะผลิตและพัฒนาคุณภาพบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านโรคมะเร็งที่เหมาะสมกับสังคมไทย สู่เป้าหมายการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร ให้มีความเหมาะสมสอดคล้อง และทันเวลาที่จะรองรับนโยบายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศในอนาคต
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงจัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษาเมื่อปีพุทธศักราช 2547 ได้เสด็จทรงวางศิลาฤกษ์อาคารที่ทำการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2546
วิสัยทัศน์ “เป็นโรงพยาบาลชํานาญการด้านวิจัย และการดูแลรักษาโรคมะเร็ง ระดับสากล”
พันธกิจ
- ให้บริการทางการแพทย์โดยเฉพาะด้านโรคมะเร็ง ที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล
- ทําการวิจัยมุ่งสู่ความเป็นเลิศ เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่
- สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันมะเร็งทั้งในและต่างประเทศ
- พัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์สู่ความเป็นเลิศระดับสากลด้านโรคมะเร็ง
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ มุ่งเน้นให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งและพัฒนางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งเป็นสำคัญ ในด้านการบริการ โรงพยาบาลมีบริการที่ครบวงจร โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และให้การรักษาภายใต้การทบทวนวิเคราะห์อย่างละเอียด ลึกซึ้ง โดยคณะกรรมการกำหนดแผนการรักษา หรือ Tumor board committee ทั้งสำหรับผู้ที่ยังไม่เป็นมะเร็งแต่อาจมีอาการหรือมีผลการตรวจบางอย่างผิดปกติ ตลอดจนผู้ที่วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งแล้ว ซึ่งทำให้ผู้รับบริการมั่นใจได้ว่า ได้รับการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพ มีประโยชน์สูงสุด มีความปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล
การบริการเด่นๆ
Care Program เป็นโปรแกรมการดูแลรักษาเฉพาะโรค ควบคู่ไปกับพัฒนาการศึกษาวิจัยทางคลินิคที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นเฉพาะโรคมะเร็งบางชนิดที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย เป็นโปรแกรมหลัก เป็นกิจกรรมเด่นของโรงพยาบาล ได้แก่
Care Program เป็นโปรแกรมการดูแลรักษาเฉพาะโรค ควบคู่ไปกับพัฒนาการศึกษาวิจัยทางคลินิคที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นเฉพาะโรคมะเร็งบางชนิดที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย เป็นโปรแกรมหลัก เป็นกิจกรรมเด่นของโรงพยาบาล ได้แก่
- Cervical cancer care program
- Colorectal cancer care program
- Lung cancer care program
- Liver cancer care program
การทุ่มเททำการศึกษาวิจัย คิดค้นวิธีรักษา พํฒนาระบบการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ใน care program ทั้ง 4 โปรแกรม ทำให้เราเชี่ยวชาญและรู้ลึกซึ้งถึงวิธีการพิชิตโรคมะเร็งทั้ง 4 ชนิดเป็นอย่างดี
อ้างอิง : http://www.cccthai.org/
1.2 ประเด็นที่มาโครงการ
1.2.1 จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดในภาคตะวันออกของประเทศไทยเป็นเขตชุมชน
อุตสาหกรรมและมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น ทำให้มีประชาชนหนาแน่น มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
และอาชีวอนามัย ระบบบริการสาธารณสุขมีแต่โรงพยาบาลขนาดเล็กและขนาดกลาง
ไม่มี ศูนย์บริการทางการแพทย์ระดับ Excellence Center หรือระดับคณะแพทยศาสตร์ ที่จะช่วย พัฒนาระบบสาธารณสุขในพื้นที่ในด้านการศึกษา
วิจัยและบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ฯ
จึงได้เสนอโครงการพัฒนารามาธิบดีสู่คณะแพทย์ศาสตร์ชั้นนำในเอเชีย
เพื่อพัฒนาวงการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย อันจะเกิดประโยชน์ ต่อประชาชน ทั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและเขตรอบนอก
ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร รวมถึงประชาชนใน 7 จังหวัดภาคตะวันออก
โครงการนี้จึงเปรียบเหมือนกับเป็นศูนย์กลางเพื่อการรวมตัวกันโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คำปรึกษาความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
บำบัดและรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ให้บริการทางการแพทย์ ที่มีความซับซ้อน
และเทคโนโลยีเครื่องมือที่ทันสมัย มีความเป็นสากล และมุ่งเน้นกลุ่มผู้ใช้บริการ ไปที่ผู้ที่มีความเสี่ยง
และ ผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกกรณี ซึ่งสถานที่เช่นนี้มีเพียง 7 แห่งในประเทศไทย ที่เป็นศุนย์มะเร็งโดยเฉพาะ ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล โดยทั่วไป
1.2.2สถิติข้อมูลสนับสนุน การคาดการณ์การขยายตัวในอนาคต
จากรูป แสดงถึงจำนวนศูนย์มะเร็งภูมิภาคที่มีเพียง
8 ศูนย์ รวมสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ซึ่งไม่ได้นับรวมหน่วยมะเร็งในโรงพยาบาลทั่วไป
ซึ่งเป็นตัวเลขของสถานที่ที่น้อย เมื่อเทียบ กับสถิติผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นๆทุกวัน
อ้างอิง : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
ส่วนที่ 2 เป้าหมายโครงการ
2.1 องค์ประกอบโครงการ
2.1.1 องค์ประกอบหลัก มีพื้นที่ประมาณ 60%
1.ผู้ป่วยใน
2.ผู้ป่วยนอก
3.หอพักผู้ป่วยพิเศษ ชาย/หญิง กรณีให้ยาเคมีบำบัด 100 เตียง
4.หอพักผู้ป่วยระยะประคับประคอง
5.ห้องเคมีบัด 2-8 ชั่วโมง 20 เบาะนั่ง / 5 ห้องพักชั่วคราว
5.ห้องรังสีวินิจฉัย
6.ห้องรังสีมะเร็งรักษา
6.ห้องรังสีมะเร็งรักษา
7.ห้องผ่าตัด
8.ห้องให้คำปรึกษาผู้มีความเสี่ยง
9.ห้องพักแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่
2.1.2 องค์ประกอบรอง มีพื้นที่ประมาณ 20%
9.ห้องพักแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่
2.1.2 องค์ประกอบรอง มีพื้นที่ประมาณ 20%
1.ส่วนพักคอย
2.สวน
3.ห้องนันทนาการ
4.ห้องอาหาร
5.ร้านขายของ/เยี่ยมผู้ป่วย
6.Hall
7.Lobby
8.Information
2.1.3 ส่วนบริการ มีพื้นที่ประมาณ 20%
1.ห้องเครื่องต่างๆ
2.ห้องเครื่องทางการแพทย์ เช่น แก็สออกซิเจน
3.ห้องซักรีด
4.ห้องครัว
5.ส่วน office
6.ส่วนบริหาร
7.Lobby
8.ห้องพนักงาน
2.2 ผู้ใช้หลักโครงการ
ผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกระยะ
ญาติผู้ป่วย
แพทย์/พยาบาล/เจ้าหน้าที่
2.3 พื้นที่ใช้สอยโครงการ
2.3.1 พื้นที่โครงการโดยประมาณ
พื้นที่โครงการประมาณ 15,000-20,000 sq.m
2.3.2 ขนาดที่ตั้งโครงการโดยประมาณ
ที่ตั้งโครงการประมาณ 5,000 sq.m
2.3.3 FAR และ OSR
FAR 1:6/OSR 30%
2.4 งบประมาณ (โดยประมาณ)
200,000,000 บาท
2.5 แนวความคิดและจินตภาพโครงการที่ตั้งเป้าหมายไว้
แบ่งพื้นที่สำหรับสวนเพื่อพักผ่อน คลายเครียด และให้ธรรมชาติช่วยบำบัด มีส่วน tower 12 ชั้น เป็นส่วนพักฝื้น และ low-rise สำหรับส่วนบำบัดอื่นๆที่ไม่ต้องพัก
ส่วนที่ 3 ที่ตั้งโครงการ
3.1 การเลือกทำเลที่ตั้งโครงการ (Location Selection)
จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดในภาคตะวันออกของประเทศไทยเป็นเขตชุมชนอุตสาหกรรมและมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น
ทำให้มีประชาชนหนาแน่น มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย
ระบบบริการสาธารณสุขมีแต่โรงพยาบาลขนาดเล็กและขนาดกลาง
ไม่มีศูนย์บริการทางการแพทย์ระดับ Excellence Center หรือระดับคณะแพทยศาสตร์ที่จะช่วยพัฒนาระบบสาธารณสุขในพื้นที่ในด้านการศึกษาวิจัยและบริการทางการแพทย์
คณะแพทยศาสตร์ฯ จึงได้เสนอโครงการพัฒนารามาธิบดีสู่คณะแพทย์ศาสตร์ชั้นนำในเอเชีย
เพื่อพัฒนาวงการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย
อันจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและเขตรอบนอกฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร
รวมถึงประชาชนใน 7 จังหวัดภาคตะวันออก
โดยโครงการนี้เชื่อมโยงกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ถนนพระราม 6
ซึ่งเน้นในด้านการศึกษาของแพทย์และบุคลากรในระดับหลังปริญญา
โดยโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รับที่ดินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภูมิพลอดุลยเดช พื้นที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ ซอยสุขาภิบาล 119 อำเภอบางพลี
จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน
291-1-63 ไร่ ซึ่งคณะรัฐบาลได้อนุมัติดำเนินการโครงการพัฒนารามาธิบดีสู่คณะแพทย์ศาสตร์ชั้นนำในเอเชียคณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ณ ที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์ อ.บางพลี
จังหวัดสมุทรปราการ